นายสันทาน สีสา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วย นายไพฑูรย์ ชนะชู ผู้ตรวจราชการกรม เขตตรวจราชการส่วนกลาง และ 5 นำคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่เยี่ยมชมการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรพรหมคีรี จำกัด อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมี นายเฉลิม นวมนิ่ม สหกรณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช นางเกษร นวลมังสอ ประธานกรรมการ นางยุพดี จิตผ่องอำไพ ผู้จัดการสหกรณ์ คณะกรรมการ และเจ้าหน้าที่สหกรณ์ ให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ รองอธิบดีฯ รับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงานของสหกรณ์ พร้อมกล่าวชื่นชมว่าสหกรณ์แห่งนี้เป็นสหกรณ์ที่มีความเข้มแข็ง และเป็นสหกรณ์โดยแท้จริง คำนึงถึงสมาชิกเป็นหลัก ซึ่งมีจุดเด่น คือ มีข้อมูลสมาชิกครบทุกราย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้ทราบถึงสภาพของตัวสมาชิก มีการจัดชั้นสมาชิก เพื่อจัดสวัสดิการต่าง ๆ รวมทั้งการส่งเสริมสมาชิกให้ทำผลผลิตที่ได้มาตรฐาน GAP เพื่อการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศในอนาคตจะสามารถทำได้ง่ายขึ้น โดยสหกรณ์เป็นผู้รวบรวม ซึ่งกรมฯ มีเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ อัตราดอกเบี้ยต่ำ สนับสนุนให้สหกรณ์กู้นำมาใช้รวบรวมผลผลิตผลไม้ และสนับสนุนตะกร้าบรรจุผลไม้เพื่ออำนวยความสะดวกให้สหกรณ์ในการกระจายผลไม้ จุดเด่นอีกหนึ่งเรื่อง คือ เป็นเครือข่ายเชื่อมโยงสินค้าระหว่างสหหรณ์ด้วยกันซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก ตลอดจนการดำเนินงานซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ ที่ได้นำผลผลิตจากสมาชิก และสินค้าของเครือข่ายสหกรณ์มาจำหน่าย เป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อยากฝากเรื่องการรักษาฐานลูกค้าและรักษาตลาดของสหกรณ์ โดยให้กระจายสินค้าแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกันให้เป็นปกติ ไม่จำเป็นต้องรอในช่วงราคาตกต่ำ และต้องชอชื่นชมสหกรณ์แห่งนี้ ขอให้รักษาคุณภาพการดำเนินงาน และกรมฯ จะใช้เป็นต้นแบบในการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร การพัฒนาผลผลิตของสมาชิก ดูแลสมาชิกตั้งแต่ต้นน้ำ ตลอดจนการใช้สมาชิกเป็นฐานการบริหารจัดการสหกรณ์ด้วย
สหกรณ์การเกษตรพรหมคีรี จำกัด ถือเป็นสหกรณ์ต้นแบบที่สมาชิกมีส่วนร่วมดำเนินธุรกิจ ร้อยละ 100 รวมทั้งสามารถดำเนินงานเพื่อบริการสมาชิก ทั้งยังเป็นศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เชื่อมโยงเครือข่ายสหกรณ์กับสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด จังหวัดร้อยเอ็ด ในครั้งนี้ได้เชื่อมโยงข้าวสารจากสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด จำนวน 30 ตัน เพื่อมาจำหน่ายให้กับสมาชิก และกระจายสินค้าไปยังสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรต่าง ๆ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช และเมื่อข้าวสารมาถึงสหกรณ์การเกษตรพรหมคีรี จำกัด ก็จะส่งสินค้า เช่น ส้มโอ มังคุด สะตอ มะพร้าว ที่มีอยู่ในจังหวัดออกไปจำหน่ายยังสหกรณ์ และเครือข่ายต่าง ๆ ในจังหวัดร้อยเอ็ด โดยครั้งนี้เป็นการจัดส่งส้มโอทับทิมสยาม สินค้า GI ของอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ของกลุ่มเกษตรกรบ้านแสงวิมาน จำนวน 10,000 ลูก ในการเชื่อมโยงสินค้าดังกล่าว สหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด ได้ใช้รถขนส่งของสหกรณ์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ รวมทั้งใช้เงินกู้จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ เป็นทุนหมุนเวียนในการบริหารจัดการ มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ส่งผลให้สหกรณ์สามารถลดต้นทุน และสามารถเพิ่มรายได้ให้แก่สมาชิกสหกรณ์
นอกจากนี้ ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มีการปลูกมังคุดค่อนข้างมาก เมื่อเกิดภาวะล้นตลาด สหกรณ์ฯ จะร่วมกับเครือข่ายสหกรณ์จะช่วยกระจายผลผลิตมังคุดไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้สหกรณ์ฯ ได้เตรียมพร้อมแล้วในการกระจายผลผลิตสู่นอกพื้นที่ โดยเฉพาะสหกรณ์ในเครือข่ายจากภูมิภาคต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการแลกเปลี่ยนสินค้าและผลผลิตทางการเกษตรเป็นประจำ เช่น สหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด จังหวัดร้อยเอ็ด สหกรณ์การเกษตรในจังหวัดสุรินทร์ นครราชสีมา และจังหวัดต่าง ๆ
ส่วนสถานการณ์ผลไม้ในฤดูกาลผลิตปีนี้ ผลผลิตโดยรวมน่าจะใกล้เคียงกับปีที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 1,200 ตัน มังคุดรุ่นแรกนั้นได้ให้ผลผลิตไปแล้ว รุ่นที่สองที่กำลังจะออกตามมาในปลายเดือนนี้ คาดว่าจะมีปริมาณมากกว่า 50% ของปริมาณผลผลิตทั้งหมดในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้สหกรณ์ได้มีการเตรียมรองรับไว้แล้ว ทั้งการประสานผู้ประกอบการส่งออก ล้งในพื้นที่ และสหกรณ์ในเครือข่ายในภูมิภาคต่าง ๆ ในการช่วยกระจาย ผลผลิตไปจำหน่าย ซึ่งคาดว่าปีนี้ปัญหาในเรื่องราคามังคุดตกต่ำเหมือนปีที่ผ่านมาไม่น่าจะเกิดขึ้น ส่วนเรื่องราคามังคุด สหกรณ์ฯ ได้ส่งเสริมให้สมาชิกทำมังคุดคุณภาพ GAP ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ รวมทั้งการใช้สารเคมีที่เหมาะสมจะช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับสมาชิกด้วย ทั้งนี้ สมาชิกสามารถบริหารจัดการราคามังคุดของตนเองได้ ซึ่งผลผลิตรุ่นแรก ราคาเกรด AA อยู่ที่ 70 บาท แต่หากเกิดราคาตกต่ำ สหกรณ์จะเข้าไปรับซื้อแล้วนำไปกระจายให้เครือข่ายสหกรณ์ ราคาต่ำสุดน่าจะอยู่ที่ 28 – 30 บาท
โอกาสนี้ รองอธิบดีฯ ได้เยี่ยมชมการดำเนินงานซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ ซึ่งสหกรณ์ฯ ได้เข้าร่วมโครงการซูเปอร์มาร์เก็ต ตั้งแต่ปี 2564 ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้พัฒนาร้านค้าสหกรณ์ ให้เป็นจุดจำหน่ายสินค้าของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีคุณภาพจากจังหวัดต่าง ๆ เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ ผัก ผลไม้ อาหารแปรรูป เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าสหกรณ์ ผลักดันให้สหกรณ์เป็นศูนย์รวบรวมและจำหน่ายผลผลิตคุณภาพแก่ประชาชนในรูปแบบซูเปอร์มาร์เก็ต ภายใต้แนวคิด สดจากฟาร์มถึงมือคุณ FRESH FROM FARM “สด สะอาด ปลอดภัย” เป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจคุณภาพชีวิตของสมาชิก เกษตรกร รวมถึงชุมชนและสังคมได้บริโภคสินค้าที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ในราคาที่เป็นธรรม
สหกรณ์การเกษตรพรหมคีรี จำกัด จัดตั้งครั้งแรกเมื่อ 18 กรกฎาคม 2521 และเมื่อปี 2544 ได้มีการควบรวมกับสหกรณ์กองทุนสวนยางพรหมโลก จำกัด และสหกรณ์กองทุนสวนยางพรหมคีรี จำกัด ปัจจุบันมีสมาชิก 2,069 คน มีทุนดำเนินงานมากกว่า 601 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจ 6 ด้าน ได้แก่ ธุรกิจรับฝากเงิน ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจรวบรวมผลผลิต ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย ธุรกิจแปรรูปยางพารา และธุรกิจแปรรูปปุ๋ยผสม ที่ผ่านมา สหกรณ์ได้รับสนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์การตลาด จากกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้แก่ รถบรรทุก 4 ล้อ รถโฟคลิฟท์ เครื่องคัดผลไม้สายพานลำเลียง และก่อสร้างอาคารรวม/พักสินค้า รวมทั้งสิ้น 12.667 ล้านบาท