กรมราชทัณฑ์ ได้เผยแพร่เอกสาร ระบุใจความว่า “จากกรณีการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในหลายพื้นที่ โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม ดำเนินมาตรการเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของปลาหมอคางดำไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน
กรมราชทัณฑ์ ตระหนักดีว่า ขณะนี้การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำเป็นความเดือดร้อนของประชาชนในหลายพื้นที่ ดังนั้น กรมราชทัณฑ์จึงพร้อมนำศักยภาพขององค์กรเข้ามาช่วยสนับสนุนการแก้ไขอย่างบูรณาการกับทุกภาคส่วน และลงมือปฏิบัติการเชิงรุกในหลายมิติตามนโยบายของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยมีแผนปฏิบัติการเชิงรุก ดังนี้
1.สนับสนุนการบริโภคปลาหมอคางดำ โดยกรมราชทัณฑ์ได้พิจารณาปรับเปลี่ยนรายการอาหารดิบรายสิ่ง โดยจะทำหนังสือไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เป็นคู่สัญญากับเรือนจำ เพื่อขอความร่วมมือในการจัดส่งปลาหมอคางดำไปทำอาหารแทนปลาชนิดอื่น ซึ่งที่ผ่านมากรมราชทัณฑ์ ได้ปรับเปลี่ยนรายการอาหารดิบรายสิ่งที่จัดเลี้ยงผู้ต้องขังในส่วนของผลไม้ เพื่อช่วยระบายสินค้าเกษตรเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรอีกทางหนึ่ง
2.สนับสนุนกิจกรรมจับปลาหมอคางดำ โดยนำผู้ต้องขังที่ผ่านเกณฑ์ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการส่งนักโทษเด็ดขาดออกไปทำงานสาธารณะ หรืองานอื่นใดเพื่อประโยชน์ของทางราชการนอกเรือนจำ พ.ศ.2566 (มีทักษะด้านการประมง/จับปลา) ออกมาจับปลาหมอคางดำ ให้กับภาครัฐ ชุมชน และภาคสังคม ที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนจากปลาหมอคางดำ โดยสามารถสอบถามมายังเรือนจำ ทัณฑสถานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงให้เรือนจำและทัณฑสถานติดต่อไปยังจังหวัด เพื่อให้ความร่วมมือในกิจกรรมดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ภารกิจดังกล่าวจะต้องปฏิบัติตามหลักมาตรฐานความปลอดภัยจากการทำงานผู้ต้องขังนอกเรือนจำ สอดคล้องตามหลักสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานอย่างมีประสิทธิภาพ
กรมราชทัณฑ์หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การนำผู้ต้องขังออกทำงานสาธารณะช่วยเหลือสังคมนอกจากจะเป็นการช่วยบรรเทาทุกข์ให้ภาครัฐ ชุมชนและภาคประชาชนแล้ว ยังเป็นการสร้างทัศนคติที่ดีต่อสังคม และปลูกฝังจิตสาธารณะให้แก่ผู้ต้องขัง ได้ทำกิจกรรมตอบแทนสังคม เพื่อชดเชยความผิดที่ตนได้กระทำ พร้อมกลับตัวเป็นพลเมืองดีภายหลังพ้นโทษต่อไป