กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร จัดงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ระดับประเทศ กำหนดจัดงาน 18 – 19 กรกฎาคม 2567 โดยร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ณ ศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายตามพระราชดำริ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า การพัฒนาภาคเกษตรมุ่งเน้นการถ่ายทอดความรู้สู่เกษตรกร ให้สามารถพัฒนาการผลิต และแก้ไขปัญหาการผลิตสินค้าเกษตรของตนเองให้มีประสิทธิภาพ และได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ซึ่งการจัดตั้งคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ เป็นวิธีการดําเนินงานอย่างหนึ่ง ที่สามารถทำให้การบริการทางวิชาการและการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตร ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์บรรลุผลสำเร็จ โดยบูรณาการการทํางานระหว่าง นักวิชาการเกษตรของหน่วยงานต่าง ๆ ในแต่ละสาขา ทั้งด้านพืช สัตว์ และประมง พร้อมด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือทางวิชาการด้านต่างๆ มาให้บริการในคลินิกเกษตร โดยสามารถเคลื่อนที่เข้าไปได้ถึงในระดับตําบล เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้ารับบริการทางการเกษตรได้อย่างถูกต้องครบถ้วนทุกด้าน
โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงการบริการทางการเกษตร ได้รับการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจรและสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร ซึ่งมีการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริม ร่วมพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกรให้สามารถทำการผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยเป็นการปฏิบัติงานในเชิงรุกที่ทำให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายที่มีปัญหาได้รับบริการทางการเกษตร เช่น การวิเคราะห์ดิน การวินิจฉัยโรคพืช สัตว์ ประมง รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและฝึกอบรมความรู้การเกษตรเสริมเพิ่มเติมควบคู่ไปด้วย ปัจจุบันได้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันกว่า 22 ปี มาแล้ว โดยการให้บริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ จะวิเคราะห์ปัญหาการดำเนินงานเชิงพื้นที่ และกำหนดแนวทางการดำเนินงานแก้ไขปัญหาให้มีความเหมาะสม โดยมีคลินิกหลักที่ร่วมให้บริการจำนวน 11 คลินิก ได้แก่ คลินิกดิน คลินิกพืช คลินิกข้าว คลินิกปศุสัตว์ คลินิกประมง คลินิกชลประทาน คลินิกสหกรณ์ คลินิกบัญชี คลินิกกฎหมาย คลินิกหม่อนไหม คลินิกส่งเสริมการเกษตร
สำหรับการดำเนินงานในครั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรได้ปรับรูปแบบการดำเนินงาน เน้นไปที่การสำรวจ วิเคราะห์ปัญหาและความต้องการของเกษตรกรในพื้นที่ก่อนที่จะเข้ามารับบริการในคลินิกฯ จากนั้นนำข้อมูลมาวางแผน กำหนดแนวทาง และเตรียมความพร้อมการให้บริการของแต่ละคลินิกฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งชุดองค์ความรู้ เจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญในแต่ละด้าน วัสดุอุปกรณ์สาธิต เครื่องมือตรวจวิเคราะห์ ยาและวัคซีน และปัจจัยการผลิตต่าง ๆ ที่จำเป็น เพื่อให้เกษตรกรที่เข้ามารับบริการได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด รวดเร็ว และเบ็ดเสร็จภายในงานเดียว
โดยตัวอย่างประเด็นปัญหาของเกษตรสามารถจำแนกแต่ละด้านได้ ดังนี้
- ด้านส่งเสริมการเกษตร เช่น ปัญหาการระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืชในกาแฟ ข้าว และกระเทียม การเพิ่มผลผลิตอะโวคาโดคุณภาพ และการบริการจัดการพืชในช่วงน้ำแล้ง/น้ำท่วม ร้อยละ 43.61
- ด้านกฎหมาย (ส.ป.ก.) เช่น ปัญหาเอกสารสิทธิ์ในที่ดินทำกิน และการขอโฉนดเพื่อการเกษตร ร้อยละ 18.47
- ด้านปศุสัตว์ เช่น ความสมบูรณ์ของแม่พันธุ์โคเนื้อ ต้นทุนอาหารสัตว์ และการเข้าถึงยารักษา/วัคซีน ร้อยละ 14.03
- ด้านอื่นๆ เช่น ด้านดิน ด้านน้ำ และบัญชี ร้อยละ 23.89
อธิบดีกรมเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย กิจกรรมลงนามถวายพระพร พิธีถวายพระพรชัยมงคล แสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กิจกรรมการให้บริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ มีการฝึกอาชีพเสริมแก่เกษตรกร การเปิดให้บริการของศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช การจำหน่ายสินค้า ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรคุณภาพของตลาด ของดีเมืองสามหมอก Mae Hong Son Product champion และตลาดชุมชนคนพอเพียง และมีบริการรถรางนำเกษตรกรเข้าศึกษาในฐานเรียนรู้เพิ่มเติมภายในศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายฯ จำนวน 9 ฐาน ประกอบด้วย ฐานเรียนรู้ด้านการจัดการน้ำ ฐานเรียนรู้ด้านไฟป่า ฐานเรียนรู้ด้านปศุสัตว์ ฐานเรียนรู้ ด้านประมง ฐานเรียนรู้ด้านข้าว ฐานเรียนรู้ด้านดินและปุ๋ย ฐานเรียนรู้ด้านพืช ฐานเรียนรู้ด้านการจัดการฟาร์ม ฐานเรียนรู้ด้านป่าไม้ เป็นต้น นอกจากนี้ การจัดงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จัดขึ้นพร้อมกันอีก 5 แห่ง ทั่วประเทศ ได้แก่ จังหวัดชัยนาท จังหวัดราชบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดสงขลา รวมถึงอีก 71 จังหวัด กำหนดจัดงาน เพื่อเปิดให้บริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์แก่พี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1 – 31 กรกฎาคม 2567
