เตือน!ฝนตกหนัก 11-15 ก.ค.หลายพื้นที่ทั่วประเทศ กอนช.แจ้งเตรียมรับมือน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลัน
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศเตือนให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลันหลังกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า ในช่วงวันที่ 10-14 ก.ค.65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
หลังจาก กอนช.ได้ประเมินสถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) แล้วพบว่าจะมีปริมาณฝนตกสะสมต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์น้ำในลำน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติ บางพื้นที่ที่ฝนตกหนัก อยู่ในเกณฑ์น้ำมาก อาจส่งผลให้เกิดน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน จึงขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงเพิ่มเติมในช่วงวันที่ 11-15 ก.ค.65 ดังนี้
1. เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง
- ภาคเหนือ จังหวัดพะเยา (อำเภอเชียงคำ ปง และภูซาง) จังหวัดลำปาง (อำเภองาว แจ้ห่ม เมืองปานและวังเหนือ) จังหวัดแพร่ (อำเภอร้องกวาง วังชิ้น และสอง) จังหวัดพิษณุโลก (อำเภอนครไทย) จังหวัดเพชรบูรณ์ (อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ วิเชียรบุรี และหล่มสัก)
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดเลย (อำเภอด่านซ้าย และปากชม) จังหวัดหนองบัวลำภู (อำเภอสุวรรณคูหา) จังหวัดอุดรธานี (อำเภอกุมภวาปี ทุ่งฝน นายูง น้ำโสม บ้านดุง บ้านผือ พิบูลย์รักษ์เพ็ญ วังสามหมอ สร้างคอม และหนองหาน) จังหวัดหนองคาย (อำเภอท่าบ่อ เฝ้าไร่ โพธิ์ตากโพนพิสัย เมืองหนองคาย รัตนวาปี สระใคร และสังคม) จังหวัดสกลนคร (อำเภอกุดบาก คำตากล้าเจริญศิลป์ นิคมน้ำอูน บ้านม่วง ภูพาน วานรนิวาส วาริชภูมิ ส่องดาว และอากาศอำนวย) จังหวัดยโสธร (อำเภอกุดชุม ทรายมูล ป่าติ้ว เมืองยโสธร และเลิงนกทา) จังหวัดชัยภูมิ (อำเภอเทพสถิตหนองบัวแดง และเกษตรสมบูรณ์) จังหวัดขอนแก่น (อำเภอเขาสวนกวาง ชนบท เมืองขอนแก่น และอุบลรัตน์) จังหวัดกาฬสินธุ์ (อำเภอเขาวง คำม่วง นาคู สมเด็จ และสามชัย) จังหวัดร้อยเอ็ด (อำเภอโพนทอง และหนองพอก) จังหวัดอำนาจเจริญ (อำเภอชานุมาน พนา เมืองอำนาจเจริญ ลืออำนาจและหัวตะพาน) จังหวัดนครราชสีมา (อำเภอเมืองยาง) จังหวัดอุบลราชธานี (อำเภอเขมราฐโขงเจียม ตระการพืชผล ตาลสุม นาจะหลวย นาตาล พิบูลมังสาหาร โพธิ์ไทร ม่วงสามสิบ ศรีเมืองใหม่ และสิรินธร)
- ภาคใต้ จังหวัดระนอง (อำเภอกระบุรี กะเปอร์ และเมืองระนอง) จังหวัดชุมพร (อำเภอพะโต๊ะ และเมืองชุมพร) จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอท่าชนะ) จังหวัดพังงา (อำเภอคุระบุรี)
2. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันบริเวณแม่น้ำน่านและลำน้ำสาขา แม่น้ำชี แม่น้ำมูล แม่น้ำสงคราม ลำน้ำอูน ลำน้ำยาม และแม่น้ำตาปี
3. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำกักเก็บสูงสุด (Upper Rule Curve) ได้แก่ อ่างเก็บน้ำน้ำพุง จังหวัดสกลนคร อ่างเก็บน้ำกิ่วคอหมา จังหวัดลำปาง รวมถึงอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำ
- ภาคเหนือ (จังหวัดลำปาง น่าน และพะเยา)
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จังหวัดเลย สกลนคร ขอนแก่น นครราชสีมา นครพนม มุกดาหาร และอุบลราชธานี)
- ภาคตะวันออก (จังหวัดตราด)
- ภาคใต้ (จังหวัดสุราษฎร์ธานี)
ในการนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
- ติดตามสภาพอากาศและสภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ
- ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและความสามารถใช้งานของอ่างเก็บน้ำ อาคารบังคับน้ำ และติดตามตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำและกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ พร้อมทั้งวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมกับปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ และระดับน้ำในลำน้ำ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับน้ำหลากป้องกันน้ำท่วม ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที
- ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์