ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงศ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ติดตามโครงการพัฒนาลุ่มน้ำลำเชียงไกร ตอนบน จังหวัดนครราชสีมา โดยมี นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน และผู้เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่และกล่าวสรุปรายงาน ณ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเก่า ต.บ้านเก่า อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
ร้อยเอกธรรมนัส เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน เตรียมนำเสนอแผนโครงการพัฒนาลุ่มน้ำลำเชียงไกร ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรนอกสถานที่ กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างฯ วันพรุ่งนี้ (2 ก.ค.67) เพื่อเพิ่มศักยภาพการกักเก็บน้ำอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร โดยเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำต้นทุน 4.16 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 83,124 ไร่ ครัวเรือนได้รับประโยชน์ 21,059 ครัวเรือน เนื่องจากลุ่มน้ำลำเชียงไกร มีพื้นที่ 2,960 ตร.กม. หรือประมาณ 1.85 ล้านไร่ ครอบคลุม 5 อําเภอ ได้แก่ อ.เทพารักษ์ อ.ด่านขุนทด อ.โนนไทย อ.โนนสูง และ อ.พระทองคํา จ.นครราชสีมา ขณะที่ปริมาณน้ำท่าเฉลี่ยประมาณ 364 ล้าน ลบ.ม. แต่อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรสามารถรองรับน้ำได้เพียง 52 ล้าน ลบ.ม. จึงทำให้เกิดปัญหาอุทกภัยในพื้นที่เป็นประจำ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ร้อยเอก ธรรมนัส ได้มอบหมายให้กรมชลประทานบูรณาการร่วมกับภาคประชาชน ผู้นำท้องถิ่น เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาลุ่มน้ำลำเชียงไกรตามแผนที่วางไว้ เพื่อให้พี่น้องประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ได้มีแหล่งน้ำต้นทุนเพิ่มเติม ช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำและปัญหาอุทกภัยถือเป็นการพัฒนาแหล่งน้ำอย่างยั่งยืนให้กับ พี่น้องประชาชนในอนาคตต่อไป
จากนั้น รมว.ธรรมนัส ได้มอบหมายให้ รมช.อรรถกร เดินทางตรวจติดตามอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนล่าง ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการระบายน้ำในลำเชียงไกรเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปริมาตรน้ำที่ท่วมขังในเขตลุ่มน้ำเชียงไกรน้อยลง ระยะเวลาในการท่วมขังลดลง รวมถึงมีน้ำเก็บไว้ในลำเชียงไกรเพิ่มขึ้นในฤดูแล้ง สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคต มีแผนการดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและกักเก็บน้ำในลุ่มน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง และพัฒนาระบบกระจายน้ำเข้าสู่แปลงนาตลอดทั้งลุ่มน้ำลำเชียงไกร