นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมและติดตามการปฏิบัติงานของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ พร้อมมอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงาน เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี นางสาวภัทราภรณ์ โสเจยยะ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ตลอดจนนางสาวอัญมณี ถิรสุทธิ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ คณะผู้บริหารกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ร่วมให้การต้อนรับ และผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting ณ ห้องประชุม กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เทเวศร์ กรุงเทพฯ ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำหนดนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนภาคการเกษตรและสหกรณ์ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรและยกระดับความเป็นอยู่ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมุ่งเป้าเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร 3 เท่า ภายในระยะเวลา 4 ปี ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งปัจจุบันระบบสหกรณ์ นับว่ามีส่วนสำคัญเป็นกลไกในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และมีส่วนสำคัญในการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจฐานราก จึงต้องเร่งสร้างความเข้มแข็งให้ระบบสหกรณ์ โดยเน้นย้ำให้กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ดำเนินงานสร้างความเชื่อมั่นและโปร่งใสในระบบสหกรณ์ ทั้งในด้านการตรวจสอบบัญชีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร การควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชี ตลอดจน ใช้นวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาช่วยในการตรวจสอบบัญชี เพื่อให้มีความแม่นยำ รวดเร็ว รวมไปถึงการเสริมสร้างองค์ความรู้และสอนแนะการจัดทำบัญชีให้เกษตรกร เยาวชนและประชาชน ให้มีวินัยทางการเงิน เกษตรกรสามารถนำข้อมูลไปต่อยอดการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมให้มีความยั่งยืน
“งานของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปรียบเสมือนผู้ที่คอยเฝ้าระวัง และเตือนภัยทางการเงินของสหกรณ์ในการวางแผนด้านการเงิน การทำธุรกิจ เพื่อป้องกันไม่ให้เงินรั่วไหล ดังนั้นจึงเป็นภารกิจที่สำคัญที่ทุกคนต้องร่วมมือกันสร้างความเข้มแข็งให้องค์กร และบุคลากร ยกระดับการทำงานให้เข้มข้น ตลอดจนให้ความสำคัญกับคุณภาพการตรวจบัญชี การจัดทำบัญชีครัวเรือน และพัฒนาความรู้ความสามารถให้เท่าทันเทคโนโลยีและธุรกิจของสหกรณ์ในปัจจุบันที่มีความก้าวหน้าขึ้น รวมทั้ง ประยุกต์นำนวัตกรรมเข้ามาเสริมกับประสบการณ์ความรู้ความสามารถที่มีอยู่ เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว เพื่อให้เกิดประโยชน์กับสหกรณ์และพี่น้องกลุ่มเกษตรกร” รมช.อรรถกร กล่าว
ทั้งนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีภารกิจในการตรวจสอบบัญชีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร กำหนดระบบบัญชีและมาตรฐานการสอบบัญชี ให้คำปรึกษาแนะนำและให้ความรู้ด้านการบริหารการเงิน และการบัญชี ส่งเสริมความรู้ด้านการจัดทำบัญชีและรายงานสภาวะเศรษฐกิจของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร เพื่อเสริมสร้างให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร มีระบบการควบคุมภายในและระบบข้อมูลด้านการบริหารการเงินและการบัญชีที่ดี สามารถบริหารงานได้อย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ภายใต้วิสัยทัศน์ “ตรวจสอบบัญชีและส่งเสริมการทำบัญชี เพื่อสร้างความเข้มแข็ง โปร่งใสแก่สหกรณ์และเกษตรกร” สำหรับผลการดำเนินงานตรวจสอบบัญชีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ตรวจสอบแล้ว 9,187 แห่ง จากเป้าหมาย 9,624 แห่ง หรือ 95.46% (ณ วันที่ 20 มิ.ย.2567) ปัจจุบันมีสมาชิกรวม 11.9 ล้านคน มูลค่าธุรกิจรวมทั้งสิ้น 2,349,399 ล้านบาท แบ่งเป็นประเภทธุรกิจ สินเชื่อ รับฝากเงิน จัดหาสินค้ามาจำหน่าย รวบรวมผลิตผล แปรรูปผลิตผล และให้บริการและส่งเสริมการเกษตร
นอกจากนี้ กรมฯ ได้ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพการจัดทำบัญชีแก่เกษตรกรและประชาชน อาทิ เสริมสร้างวินัยทางการเงินด้วยบัญชีรับ – จ่ายในครัวเรือน 23,600 ราย พัฒนาศักยภาพการประกอบอาชีพด้วยบัญชีต้นทุนอาชีพ 19,464 ราย ส่งเสริมการจัดทำบัญชีแก่กลุ่มเป้าหมายตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 3,014 ราย ส่งเสริมอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี 700 ราย พัฒนาศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร 882 ศูนย์ รวมทั้งการพัฒนาและเทคโนโลยีโปรแกรมที่สำคัญเพื่อยกระดับการบริหารจัดการข้อมูล โดยได้พัฒนาโปรแกรมชุด Smart 4M สำหรับการใช้ข้อมูลทางการเงินและการบัญชี รวมทั้งต่อยอดการใช้ข้อมูลจากระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร ประกอบด้วย Smart Me, Smart Member, Smart Manage และ Smart Monitor ให้เกษตรกร สมาชิก กรรมการสหกรณ์ และผู้ที่เกี่ยวข้องได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลร่วมกันอย่างคุ้มค่า
