นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ตามที่ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรเถื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจัยการผลิตทางการเกษตร ซึ่งตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร และสารวัตรเกษตร ตรวจตราร้านค้าปัจจัยการผลิตทางการเกษตรอย่างเข้มงวด หากพบผู้กระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
วันที่ 13 มิถุนายน 2567 อธิบดีกรมวิชาการเกษตร สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 โดยนายพนิต หมวกเพชร ผู้อำนวยการกลุ่มควบคุมตามพระราชบัญญัติ สวพ.2 และ นางสาวยุพา สุวิเชียร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุโขทัยพร้อมด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตร และ หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช เข้าร่วมตรวจสอบร้านค้าปัจจัยการผลิตทางการเกษตรแห่งหนึ่ง ใน อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย พบการกระทำผิดในการขายปุ๋ยเคมีที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน ซึ่งผิดตามพระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงได้อายัดปุ๋ยเคมีที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาทไว้ แจ้งความดำเนินคดี และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายละเอียด ปั้นสุข ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 กล่าวเพิ่มเติมว่า การเลือกซื้อปุ๋ยให้ได้คุณภาพเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเกษตรกรสามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง เริ่มจากการตรวจฉลากตามข้อกำหนดของกฎหมาย ฉลากบรรจุปุ๋ยต้องเป็นภาษาไทยและต้องแสดงข้อความดังนี้ สูตรปุ๋ย ชื่อการค้า และประเภทของปุ๋ย เครื่องหมายการค้า ทะเบียนปุ๋ย ปริมาณธาตุอาหารรับรอง อินทรียวัตถุรับรอง หรือจุลินทรีย์รับรอง น้ำหนักสุทธิ หรือขนาดบรรจุของปุ๋ยตามระบบเมตริก ระบุที่ตั้งสำนักงาน และสถานที่ผลิตของผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้จำหน่าย ทั้งหมดนี้จะต้องมีบนหีบห่ออย่างชัดเจน และให้พิจารณาจากลักษณะทางกายภาพ ได้แก่ เม็ดปุ๋ยไม่จับตัวกันเป็นก้อนแข็ง เม็ดปุ๋ยเคมีไม่มีลักษณะแตกยุ่ยมีฝุ่น หากเป็นปุ๋ยเคมีเหลว ไม่ตกตะกอน แยกชั้น ภาชนะบรรจุไม่บวม และเสียรูปทรง หากเป็นปุ๋ยชนิดเกล็ด ไม่จับตัวเป็นก้อนแข็ง ไม่มีความชื้นสูง ข้อความในฉลากไม่เลอะเลือนอ่านไม่ออก ในส่วนร้านจำหน่ายปุ๋ยต้องมีใบอนุญาตขายปุ๋ย มีป้ายแสดงในที่เปิดเผย เก็บปุ๋ยแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน ไม่ปนกับสินค้าที่จะก่อให้เกิดไฟไหม้ได้ และต้องไม่วางปุ๋ยโดยตรงกับพื้น เพื่อป้องกันความชื้น รักษาฉลาก หรือหีบห่อให้ครบถ้วน เก็บปุ๋ยในที่ไม่ถูกแสงแดด มีอากาศถ่ายเทได้ดี มีอุปกรณ์ดับเพลิงในพื้นที่เก็บปุ๋ย และเป็นร้านที่ได้รับการรับรองการจำหน่ายปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพ (Q-Shop)
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวในตอนท้ายว่า รมว.เกษตร ได้กำชับให้กรมวิชาการเกษตร ปราบปรามพวกมิจฉาชีพที่ผลิต และจำหน่ายปัจจัยการผลิตปลอม ทั้งปุ๋ย วัตถุอันตราย หลอกขายเกษตรกร โดยมอบเป็นนโยบายเร่งด่วนให้ดำเนินการทันที เพื่อไม่ให้เกษตรกรโดนเอาเปรียบ พร้อมกับสั่งการให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากเกษตรกร หรือผู้ที่ทราบเบาะแสการกระทำความผิดดังกล่าว ขอให้แจ้งได้ที่สายด่วน 1174 เพื่อจะได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตรเข้าไปดำเนินการตรวจสอบต่อไป