ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดแพร่ โดยมี นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงศ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายปรีชา พันธุ์วา หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ ณ ฝายแม่ยม ตำบลบ้านกลาง อำเภอสอง จังหวัดแพร่ เพื่อรับฟังปัญหาที่ดินทำกิน การบริหารจัดการน้ำ และการสร้างอาชีพให้กับเกษตรกร
“ผมได้รับคำสั่งจากนายกรัฐมนตรี (นายเศรษฐา ทวีสิน) ให้มาขับเคลื่อนพัฒนาการเกษตรในภาคเหนือให้มีความเป็นอยู่ที่ดี และมาตรวจโครงการปรับปรุงฝายแม่น้ำยมสร้างพนังกั้นน้ำให้สูงขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำล้นจนกระทบความเป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้งได้สั่งการให้กรมชลประทาน (ชป.) วางแผนตรวจสอบระบบขนส่งน้ำให้ทั่วทั้งจังหวัดแพร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนมีน้ำใช้เพียงพอ“ รมว.ธรรมนัส กล่าว
รมว.ธรรมนัส กล่าวต่ออีกว่า เกษตรกรรมเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้อย่างมาก หากทำแบบใช้ตลาดเป็นตัวนำ เช่น การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมพันธุ์ผสมเพียงระยะเวลา 15-20 วัน สามารถสร้างรายได้ขั้นต่ำถึง 4,000 บาท ต่อ 1 แผ่น หากเลี้ยงไหมจำนวน 5 แผ่น (ขนาดเท่ากระดาษ A4) สามารถมีรายได้ถึง 20,000 บาท แม้แต่การปลูกพริกยังมีตลาดมาเลเซียรอรับซื้อ ซึ่งเกษตรกรสามารถติดต่อหน่วยงานในกระทรวงเกษตรฯ เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมได้อีกด้วย
นอกจากนี้ รมว.ธรรมนัส ได้มอบโฉนดเพื่อการเกษตรให้กับเกษตรกร จำนวน 150 ราย และร่วมปล่อยปลาในฝายแม่ยม จำนวน 100,000 ตัว หลังจากนั้น รัฐมนตรีเกษตรฯ เดินทางต่อไปที่จุดก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่คำมี ตำบลห้วยโรง อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ เพื่อรับทราบความก้าวหน้าการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำดังกล่าว ซึ่ง รมว.ธรรมนัส เน้นย้ำให้ ชป. ชดเชยเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบระหว่างการก่อสร้างให้เสร็จสิ้นก่อนดำเนินการก่อสร้าง เพื่อไม่ให้เกษตรกรเดือดร้อนและสามารถดำเนินการก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสั่งการให้ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำฯ ให้ทันก่อนฤดูฝนถัดไป เพื่อให้ประชาชนมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ
นอกจากนี้ รมว.ธรรมนัส ลงพื้นที่ตรวจราชการโครงการผันน้ำ ณ อ่างเก็บน้ำน้ำปี้ ตำบลเชียงม่วน อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานให้แล้วเสร็จในปี 2568 พร้อมเป็นแหล่งน้ำสำคัญและสถานที่ท่องเที่ยวของคนพะเยาต่อไป