นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเฝ้าระวังโรคแอนแทรกซ์ กรณีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) พบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ 54 ราย และพบสัตว์ป่วยตาย ช่วงเดือนมีนาคม 2567 ว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ได้ประสานหน่วยงานในพื้นที่เพิ่มการเฝ้าระวังโรคทั้งในคนและสัตว์ โดยเฉพาะด่านช่องทางเข้าออกที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว หากพบผู้ป่วยที่มีอาการเข้าได้กับโรคแอนแทรกช์ จะมีการสอบสวนโรคและรายงานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทันที
สำหรับประชาชน หากพบโค-กระบือป่วยตายผิดปกติ ให้รีบแจ้งหน่วยงานปศุสัตว์ในพื้นที่หรือแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่สำคัญ ห้ามสัมผัสเคลื่อนย้ายซากหรือชำแหละเพื่อการบริโภคโดยเด็ดขาด และหากมีประวัติสัมผัสสัตว์ป่วยแล้วมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ ซึ่งโรคนี้สามารถรักษาให้หายได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ทั้งนี้ ประเทศไทยไม่มีรายงานพบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ตั้งแต่ปี 2544 โดยแอนแทรกซ์เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียแบบเฉียบพลันจากเชื้อ Bacillus anthracis เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เกิดหลังสัมผัสเชื้อขณะชำแหละสัตว์ป่วย หรือสัมผัสซากสัตว์ที่ป่วยตาย โดยเฉพาะวัว ควาย หรือสัตว์กินหญ้า มีความเสี่ยงน้อยมากที่จะแพร่โรคจากคนสู่คน
“นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งการอย่างเคร่งครัด ผ่านนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อติดตามสถานการณ์ เพื่อป้องกันการสาธารณสุขในประเทศไทยให้เข้มงวด เฝ้าระวังสถานการณ์บริเวณชายแดน โดยนายกรัฐมนตรีขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ช่วยกันดูแลเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย” นายชัย กล่าว