ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศกระทรวงเกษตรฯ เกี่ยวกับ หลักเกณฑ์- เงื่อนไข ได้รับยกเว้นไม่ต้องแจ้งการผลิต นำเข้า ส่งออก ครอบครอง “วัตถุอันตราย” โดยต้องเป็นการใช้เพื่อประโยชน์ในการศึกษา การทดสอบ การวิเคราะห์ การวิจัย และการพัฒนาที่มีปริมาณไม่เกินหนึ่งกิโลกรัมหรือหนึ่งลิตร มีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่วันนี้ ( 28 มิ.ย. 65 ) เป็นต้นไป
วันที่ 27 มิ.ย. 65 ราชกิจจานุเบกษาได้ลงเผยแพร่ประกาศกระทรวงเกษตรฯ เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕ สำหรับ “วัตถุอันตราย”ที่กรมวิชาการเกษตรรับผิดชอบ ซึ่งมีวัตถุประสงค์นำมาใช้เพื่อประโยชน์ในการศึกษา การทดสอบ การวิเคราะห์ การวิจัย และการพัฒนา พ.ศ. ๒๕๖๕ มีใจความว่า
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕ และมาตรา ๔๔ (๒) แห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย “พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย” (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยความเห็นของ “คณะกรรมการวัตถุอันตราย” ออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (หมายถึง มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. 65 เป็นต้นไป )
ข้อ ๒ ในประกาศนี้
“วัตถุอันตราย “ หมายความว่า วัตถุอันตรายชนิดที่ ๒ หรือชนิดที่ ๓ ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง “บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย” ออกตามความในมาตรา ๑๘ วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕ ที่กรมวิชาการเกษตรรับผิดชอบ
ข้อ ๓ ให้ “วัตถุอันตราย” ที่จะมีการผลิต การนำเข้า การส่งออกหรือการมีไว้ในครอบครอง ซึ่งมีวัตถุประสงค์นำมาใช้เพื่อประโยชน์ในการศึกษา การทดสอบ การวิเคราะห์ การวิจัย และการพัฒนาที่มีปริมาณไม่เกินหนึ่งกิโลกรัม หรือหนึ่งลิตร ได้รับการยกเว้นไม่ต้องแจ้งการดำเนินการสำหรับ “วัตถุอันตราย “ ชนิดที่ ๒ ตามมาตรา ๒๒ วรรคหนึ่งและวรรคสอง หรือขออนุญาตสำหรับวัตถุอันตราย ชนิดที่ ๓ ตามมาตรา ๒๓ วรรคหนึ่ง และการขึ้นทะเบียนสำหรับวัตถุอันตรายชนิดที่ ๒ หรือชนิดที่ ๓ กรณีต้องขึ้นทะเบียนตามมาตรา ๓๖ วรรคสอง
ข้อ ๔ ให้ผู้ที่ประสงค์จะได้รับการยกเว้นตามข้อ ๓ นำส่งเอกสารหลักฐานตามแบบวอ./กษ./กวก. ๑๖ ท้ายประกาศนี้ โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ของกรมวิชาการเกษตรเป็นหลัก ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการได้หรือมีเหตุผลอื่นใดทำให้ไม่สามารถดำเนินการโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ให้การดำเนินการดังกล่าวกระทำ ณ สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร ก่อนการดำเนินการ
และเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ลงลายมือชื่อแล้ว ให้ใช้เอกสารดังกล่าวเป็นหลักฐานในการยกเว้นสำหรับการผลิต การนำเข้า การส่งออกหรือการมีไว้ในครอบครองซึ่ง “วัตถุอันตราย” เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และให้ใช้ได้ไม่เกินหกเดือนนับแต่เว้นวันที่ลงนาม โดยใช้ได้เพียงหนึ่งครั้งให้ผู้ที่ได้รับการยกเว้นตามวรรคหนึ่ง ปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
(๑) ต้องรับผิดชอบความปลอดภัยในการผลิต การเก็บรักษา การศึกษา การทดสอบ การวิเคราะห์ การวิจัย การพัฒนา การกำจัดทำลายผลผลิตพืชที่ได้จากการทดลอง และการกำจัดทำลายของเสียหรือภาชนะบรรจุวัตถุอันตราย
(๒) ต้องรายงานผลการกำจัดทำลายวัตถุอันตรายคงเหลือ ผลผลิตพืชที่ได้จากการทดลองการกำจัดทำลายของเสีย หรือภาชนะบรรจุวัตถุอันตรายเมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นภายใน ๓๐ วัน ณ สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร
(๓) นำ “วัตถุอันตราย” ไปใช้ในสถานที่และตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในแบบ วอ./กษ./กวก. ๑๖ ท้ายประกาศนี้เท่านั้น
ทั้งนี้ประกาศฉบับนี้ลงนามโดยนางมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์