นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีลงนามพิธีสารระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทย และสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน 2 ฉบับ
ได้แก่ 1) พิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดด้านมาตรการสุขอนามัยพืช สำหรับการส่งออกต้นสนใบพาย จากราชอาณาจักรไทยไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทย และสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
และ 2) ความตกลงเพื่อแก้ไขพิธีสารว่าด้วยหลักเกณฑ์การตรวจสอบ การกักกัน และสุขอนามัยทางสัตวแพทย์ เพื่อการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็งและชิ้นส่วนสัตว์ปีกไทยไปจีน
โดยมี ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย และ นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เป็นผู้ลงนามฝ่ายจีน พร้อมด้วย นายหวัง อี้ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศ พรรคคอมมิวนิสต์จีน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ราชอาณาจักรไทย ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม ณ ห้องรับรองสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
สำหรับการลงนามพิธีสารทั้งสองฉบับนี้ เป็นผลสำเร็จจากการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แห่งราชอาณาจักรไทย และสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยทั้งสองฝ่ายต่างมุ่งมั่นที่จะขยายการค้าสินค้าเกษตรระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งการเปิดตลาดสินค้าเกษตรระหว่างกันอย่างเป็นทางการส่งผลให้ประเทศไทย สามารถส่งออกต้นสนใบพายไปยังจีนได้ รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยในการสร้างตลาดใหม่ให้กับสินค้าเกษตรของไทย และเป็นการเพิ่มมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในตลาดจีน รวมถึงเป็นการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรของประเทศไทย และคาดว่าจะมีมูลค่าการส่งออกต้นสนใบพายจากไทยไปจีนราว 1,500 ล้านบาท ต่อปี
และในส่วนการลงนามความตกลงเพื่อแก้ไขพิธีสารว่าด้วยหลักเกณฑ์การตรวจสอบการกักกันและสุขอนามัยทางสัตวแพทย์เพื่อการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็งและชิ้นส่วนสัตว์ปีกไทยไปจีน มีการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็งและชิ้นส่วนสัตว์ปีกไปยังประเทศจีน เคยมีการลงนามในพิธีสารเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2561 ซึ่งประเทศไทยสามารถส่งออกได้เฉพาะเนื้อไก่ เนื้อเป็ด ชิ้นส่วนและเครื่องในไก่ เท่านั้น
สำหรับการแก้ไขพิธีสารเพื่อขยายขอบข่ายตามร่างความตกลงฯ ฉบับใหม่ดังกล่าว จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งออกชิ้นส่วนและเครื่องในเป็ดได้เพิ่มเติมอีก 18 รายการ
โดยในปี 2566 ไทยมีมูลค่าการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็งและชิ้นส่วนสัตว์ปีกไปยังจีนกว่า 16,000 ล้านบาท คาดว่าภายหลังการลงนามพิธีสารจะเพิ่มมูลค่าการส่งออกได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท