จนท.นำตัว ‘เจ๋ง ดอกจิก – พิมณัฏฐา‘ เข้าทำบันทึกจับกุมที่ สน.ดุสิต ก่อนส่งตัวไปสอบที่ ปปป. ด้าน ’ศรีสุวรรณ‘ ระบุถูกกลั่นแกล้ง ขณะที่ ‘พีรพันธุ์’ แจงไม่เกี่ยวข้อง ยันเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพรรค ยันหากพบผิดต้องให้ออกจากพรรคตามข้อบังคับ
วันที่ 26 ม.ค. 67 ภายหลังจากตำรวจป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) เข้าจับกุมนายศรีสุวรรณ จรรยา กรณีข่มขู่เรียกรับเงิน เจ้าหน้าที่รัฐแลกกับการไม่ ร้องเรียนหรือกลั่นแกล้งไม่ถูกตรวจสอบ ตามข้อร้องเรียนของ นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว รวมถึง ฝ่ายการเมือง ว่าถูกข่มขู่เรียกเงิน จำนวน 3 ล้านบาท ก่อนจะมีการเจรจาต่อรองเหลือเพียง 1.5 ล้านบาท เพื่อแลกกับการยุติเรื่องร้องเรียน โดยมีชื่อนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ และเป็นหนึ่งในคณะทำงานเขตราชการที่ 11 ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ ด้วย ซึ่งถูกนำตัวจากทำเนียบรัฐบาล มาที่สน.ดุสิต
ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการที่ตำรวจ สน.ดุสิต ทำบันทึกการจับกุม ตามขั้นตอน ทั้งของนายยศวริศ และของน.ส.พิมณัฏฐา
ระหว่างนั้น นายยศวริศ ได้ออกมาเข้าห้องน้ำ ผู้สื่อข่าวจึงพยายามสอบถามว่าเครียดหรือไม่ นายยศวริศ ยิ้ม และโบกมือปฏิเสธ และได้ถามต่อว่ามั่นใจหรือไม่ว่าไม่ได้ทำผิด นายยศวริศ ยิ้ม และพยักหน้า ก่อนจะเดินเข้าห้องไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากทำบันทึกจับกุมเสร็จสิ้น จะนำตัวไปส่งดำเนินคดีที่กองบังคับการป้องกันuและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ต่อไป และในส่วนการสอบคำให้การ จะส่งให้พนักงานสอบสวน ปปป.ทำการสอบปากคำอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน ตำรวจ บก.ปปป.คุมตัวนายศรีสุวรรณ ไปที่กองปราบปราม โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ามีข้อชี้แจงกับกรณีนี้อย่างไร นายศรีสุวรรณ ตอบสั้นๆ เพียงว่า “ถูกกลั่นแกล้งครับ” เมื่อย้ำถามว่ามีหลักฐานอะไรยืนยันว่าตัวเองถูกกลั่นแกล้ง นายศรีสุวรรณ ปฏิเสธไม่ตอบ ก่อนเดินขึ้นอาคารไปรับการสอบปากคำทันที
ทั้งนี้ตำรวจยังได้ยึดของกลางจากบ้านพักของนายศรีสุวรรณ เป็นซีพียูคอมพิวเตอร์ 3 เครื่อง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กับกล่องบรรจุเอกสารอีกจำนวนหนึ่ง
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวภายหลังตำรวจนอกเครื่องแบบรวบตัว นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋งดอกจิก สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ภายในทำเนียบรัฐบาล กรณีมีการกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการข่มขู่เรียกเงินอธิบดีกรมการข้าว 3 ล้านบาท ว่า นายยศวริศ เป็นสมาชิกพรรค รทสช. ต้องไปดูก่อนหากมีความผิดต้องให้ออก
“เราไม่เอาอยู่แล้วถ้ามีพฤติการณ์ลักษณะที่ทำให้เสื่อมเสีย เรามีสิทธิ์ให้เขาออก หรือเขาอาจจะมาลาออกก็ได้เป็นสิทธิ์ของเขา และต้องดูผลการตรวจสอบของตำรวจเป็นอย่างไร ถ้าดูแล้วไม่เหมาะสมก็คงต้องให้ออก แต่อะไรก็แล้วแต่ไม่เกี่ยวกับผม ไม่เกี่ยวกับพรรค และเขาไม่ได้เป็นคณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 แล้ว เพราะปรับเปลี่ยนไปตั้งแต่เดือนธ.ค.66 แล้ว แต่วันเดียวกันนี้มีการประชุมมอบนโยบายเขตตรวจราชการที่ 4 ,9 และ 11 ที่ทำเนียบฯ เขารู้ก็แวะเวียนมา”
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัว “เขาไปทำอะไร และทำจริงแค่ไหนเราไม่ทราบ เขาไปเกี่ยวกับนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน ไม่รู้เลย ก็ต้องให้เขาไปว่ากันเอง แต่ผมไม่รู้เรื่อง ไปลงข่าวว่าประสานตำรวจเข้ามาจับนายยศวริศ ที่ทำเนียบฯ ไม่รู้เรื่องเอาข่าวที่ไหนมา ไม่รู้จักตำรวจ ให้ไปถามตำรวจว่าใครติดต่อมา”
ส่วนกรรมการบริหารพรรคจะมีการพูดคุยกันเรื่องนี้หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ถ้ามีคนเสนอเรื่องในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค และข้อมูลข้อเท็จจริงเข้าลักษณะที่เป็นไปตามข้อบังคับพรรคก็คงต้องให้ออก ก็อาจต้องให้เขามาชี้แจงในที่ประชุม ทั้งนี้เราให้ความเป็นธรรมกับทุกคน เรายังไม่รู้ข้อเท็จจริงเลยว่าเป็นอย่างไร เมื่อถามว่า ส่วนตัวได้คุยกับนายยศวริศหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่ได้คุย เขามาหรือใครมาก็มีห้องให้นั่งต่างหาก และก็เพิ่งรู้เรื่องดังกล่าว