วันที่ 27 พ.ย. 2566 ที่สำนักงานใหญ่ แม็คโคร ถนนพัฒนาการ แขวงพัฒนาการ เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษฐธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (คดีหมูเถื่อน) นำหมายค้นจากศาลเข้าตรวจค้นพยานหลักฐานหลังพบมีเอกสารเกี่ยวข้องกับกลุ่มนายทุน 2 บริษัท ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน โดยมี นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร (แม็คโคร) เป็นผู้แทนต้อนรับและให้ความร่วมมือในการตรวจค้น
พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า จากการเข้าตรวจสอบเอกสารในวันนี้ ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ขออำนาจหมายศาลเข้าตรวจค้นบริษัทแม็คโคร และขอเอกสารการซื้อขายกับบริษัทดังกล่าว เพื่อหาหลักฐานนำมาประกอบสำนวนและเร่งติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีหมูเถื่อน ซึ่งทางแม็คโครได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ในการแสดงเอกสารที่บริษัทดังกล่าวนำมาสำแดง แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการรวบรวมเอกสารมาให้เจ้าหน้าที่ เนื่องจากเอกสารอยู่กับทางบริษัทย่อยที่กระจายอยู่หลายจังหวัด และบริษัทแม็คโคร ได้มีการซื้อขาย กับบริษัทดังกล่าว มาเป็นเวลา 10 กว่าปี มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 390 ล้านบาท
หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะต้องนำเอกสารดังกล่าวไปพิสูจน์ให้ได้ว่า เป็นเอกสารเท็จหรือจริง เพื่อพิสูจน์ให้ได้ว่าแม็คโคร ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่ในขณะนี้ มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับขบวนการค้าหมูเถื่อนหรือไม่ อย่างไรก็ดีทางพนักงานสอบสวนได้ไปพบเอกสารการสำแดงเท็จจากกรมปศุสัตว์ กรมประมง และกรมศุลกากร ซึ่งได้นำหลักฐานเหล่านี้เข้ามาประกอบสำนวน และเพื่อพิสูจน์ว่าห้างแม็คโครนั้น ตกเป็นผู้เสียหายหรือเป็นผู้เข้าร่วมขบวนการ
ด้านนางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการสื่อสารองค์กร แม็คโคร ได้ออกมาเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยทำการซื้อขายกับผู้ค้าบางราย ทางบริษัทแม็คโครยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี ในการเข้าตรวจโกดังเก็บสินค้าที่มหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร และวังน้อย จังหวัดอยุธยา ที่เข้าตรวจก่อนหน้านี้ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ เข้าขอตรวจค้นและขอเอกสารการซื้อขายเนื้อหมูเถื่อนกับ บริษัท เว้ลท์ซี่ แอนด์ เฮ็ลธ์ซี ฟูดส์ จำกัด และบริษัท เดอะ กู๊ด ช็อป จำกัด ที่กรรมการบริษัทตกเป็นผู้ต้องหาในคดีหมูเถื่อนที่ ดีเอสไอ ได้รับทำเป็นคดีพิเศษ
รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการสื่อสารองค์กร กล่าวต่อว่า ทางแม็คโคร ต้องขอยอมรับว่า เคยซื้อขายกับบริษัทดังกล่าวจริง ซึ่งขณะนั้นทางเราประสบปัญหาเครื่องในหมูไม่เพียงพอจึงประสานไปยังบริษัทดังกล่าว เพื่อที่จะให้หาตับหมูนำมาให้กับบริษัทของตน เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของผู้บริโภค และบริษัทดังกล่าวก็นำมาขายให้กับแม็คโคร โดยมีเอกสารการนำเข้าจากกรมปศุสัตว์มาสำแดง อย่างไรก็ตามประเทศไทยสามารถสั่งซื้อตับหมูจากต่างประเทศได้ตามความต้องการของผู้บริโภค เนื่องจากเครื่องในหมูมีมากน้อยไม่เท่ากัน อาจมีความจำเป็นต้องสั่งนำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนเนื้อหมูทางแม็คโครรับสินค้าจากหมูที่ผลิตในประเทศเพียงเท่านั้น
นางศิริพร กล่าวอีกว่า แม็คโครทำสัญญาค้าขายกับบริษัทดังกล่าวกันมาหลายปี โดยเริ่มจากสินค้าประเภทปลาและมีสินค้าแช่แข็งหลาย ๆ อย่าง ซึ่งมีเอกสารที่นำมาสำแดงถูกต้องตามกฎหมายทุกล็อต ที่ออกโดยกรมปศุสัตว์ จนกระทั่งปี 2565 ทางแม็คโครได้ยกเลิกซื้อเนื้อหมูกับทางบริษัทดังกล่าว เนื่องจากตรวจสอบพบว่าเนื้อหมูไม่ได้มาตรฐาน จึงเลิกซื้อกับบริษัทนี้ทันที ต่อมา ตรวบพบตับหมูไม่ได้คุณภาพเมื่อช่วงต้นปี 2566 ทางแม็คโคร จึงยกเลิกซื้อขายกับบริษัทดังกล่าวทุกสินค้า เนื่องจากได้มีการตักเตือนเรื่องคุณภาพสินค้าต่ำกว่ามาตรฐานไปก่อนหน้านี้ แต่ไม่มีการปรับปรุง